เกมไทยลีก 1 คู่ประเดิมสนามนัดที่ 13 ลงแข่งขันกันในค่ำคืนวันศุกร์สุดสัปดาห์ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่อยู่ในโซนแดงและต้องการแต้มอย่างยิ่ง เปิดบ้านรับจ่าฝูงที่ยังไร้พ่ายอย่าง บีจีปทุม ยูไนเต็ด โดยถ้าหากชนะในเกมนี้อีกก็แทบจะการันตีการไปเล่นถ้วยเอเชียในรอบแบ่งกลุ่มแบบอัตโนมัติทันที ส่วนผังการเล่นของเจ้าบ้านมาในระบบ 4-3-3 ส่วนทีมเยือนมาในระบบเก่ง 3-5-2
บีจี ปทุม ดูเหนือกว่านิดๆ จากโอกาสการเข้าทำประตู แต่ดันยิงข้ามคานออกไปหมด ส่วนโคราช มีจังหวะได้บุกน้อย ที่ใกล้เคียงที่สุดคือจังหวะจากการสาดบอลยาวแล้วอ็อตตาร่า ยิงข้ามคานออกไป
ช่วงท้ายครึ่งแรก โคราชมาได้จุดโทษจาการดู VAR ที่ชี้เป็นจุดโทษ แต่อัสซัมพ์เซา ดันเลือกยิงแบบชิพแต่ไร้ซึ่งน้ำหนัก ส่วนหลักจากนั้นบีจีปทุม ก็มาได้ลูกจุดโทษบ้าง และเป็นวิคเตอร์ ที่เลือกยิงแบบเอาชัวร์ไปที่มุมขวามือของตัวเองเป็น 0-1 ทำให้สถานการณ์พลิกไปอยู่ในมือของทีมเยือน
ช่วงต้นครึ่งหลัง บีจีปทุม เล่นด้วยความเฉื่อยชา
โดยเฉพาะจังหวะโต้กลับที่ต้องเปลี่ยนจากรับเป็นรุก ซึ่งการจ่ายบอลเป็นไปอย่างล่าช้าและไม่แม่นยำ เพราะไม่มีการขยับหาช่องไปข้างหน้า ทำให้เสียบอลง่ายมาให้โคราชได้โหมบุกต่อ
ลูกเข้ากรอบครั้งแรกในครึ่งหลังของ บีจี ปทุม กลายเป็นประตูทิ้งห่าง 0-2 ซึ่งจังหวะดังกล่าวเป็นลูกเตะมุม โดยจังหวะแรกบอลถูกสกัดออกไป แต่ต็อกติเปิดหนุนกลับเข้ามา ทำให้แนวรับโคราชเข้าไปรุมตัวโหม่งตั้งอย่างเจนรบ แต่ไม่ประกบตัวอันตรายที่สุดอย่างวิคเตอร์ ทำให้บอลที่ถูกโหม่งตั้งมา ดาวเตะสัญชาติบราซิลได้โขกเต็มศีรษะ กลายเป็นสกอร์ขึ้นนำ 0-2
หลังจากนั้นเกมรุกของโคราชก็ไม่ดุดันเหมือนช่วงเวลาที่สกอร์ตาม 0-1 อีกเลย จังหวะที่เกิดขึ้นคือการโยนบอลจากริมเส้นแล้วปราการหลัง 3 คนของบีจีปทุมเคลียร์ทิ้งไว้ได้หมด อีกทั้งเกมของทีมเยือนก็มีความแน่นอนมากขึ้น ก่อนจบเกมด้วยชัยชนะนัดที่ 11
บทสรุปหลังเกม นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เล่นได้ดีและมีโอกาสทองกับจังหวะจุดโทษ แต่จังหวะการยิงทั้งหมดในเกมนี้กลับไม่สามารถเปลี่ยนเป็นสกอร์ขึ้นนำได้ ส่วนบีจี ปทุม ยูไนเต็ด รูปเกมของพวกเขาก็อยู่ในทรงราว ๆ นี้ สิ่งที่พวกเขามีและแตกต่างจากเจ้าถิ่น คือความเฉียบคม
ไม่ควรพลาดข่าวสารวงการฟุตบอล ตลาดซื้อขายนักเตะ ที่น่าสนใจ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ Ball-Hub
