“ปิเก้” เตรียมสะบั้นก้นหนีรังบาร์ซ่า เหตุหมดไฟโชว์ฝีเท้า
พร้อมโบกมืออำลาย้ายทีมอีกคน เคราร์ด ปิเก้ นักเตะวัย 33 ปี ที่งานนี้ออกแสดงความผิดหวังอย่างชัดเจนกับเกมการแข่งขันนัดเดือดที่ผ่านมา เมื่อทีมมีโปรแกรมการแข่งขันเจอกับ บาเยิร์น มิวนิค แต่ก็ทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังในรอบปีเพราะโดนถล่มประตูไปถึง 8 ประตูโดยทีมสามารถยิงไปได้แค่เพียง 2 ประตูเท่านั้น ซึ่งแข้งกองหลังวัยเก๋าได้ออกมาเปิดเผยความรู้สึกว่าไม่ต้องการที่จะให้ผลสกอร์ลงเอยมาเป็นเช่นนี้และพร้อมที่จะโบกมืออำลาทีมรักหากจะทำให้สถานการณ์ภายในทีมยกระดับสูงขึ้นมา จากการรายงานข่าวของสื่อแดนกระทิงดุ
"เคราร์ด ปิเก้" ได้ออกมาให้สัมภาษณ์แก่สื่อหลังจากจบเกม
เคราร์ด ปิเก้ สุดยอดแข้งกองหลังสายแข็งของทีมบาร์เซโลน่า สโมสรชั้นนำแห่งวงการลูกหนังลาลีกา สเปน ได้ออกมาให้สัมภาษณ์แก่สื่อหลังจากจบเกมการแข่งขันนัดที่น่าอับอายที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรอีกนัดหนึ่ง หลังจากที่ทีมต้องแพ้ให้แก่ทีมคู่แข่งร่วมลีกไปยังย่อยยับ พร้อมยังเปรยเส้นทางการค้าแข้งของตนเองเป็นนัยว่ายินดีที่จะสละรังหากทำให้ทีมได้ไปต่อเพราะทีมไม่สามารถโชว์ความเหนือชั้นแห่งลีกเหมือนเช่นเคย
“สำหรับการแข่งขันนัดล่าสุดที่ผ่านมาผมบอกได้คำเดียวว่ามันคือหายนะชัด ๆ ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ผมสัมผัสได้ว่านักเตะทุกคนหมดไฟที่จะลงแข่งขัน ผมไม่ต้องการที่จะเห็นสโมสรอยู่ในจุดที่ต่ำสุดแบบนี้ใครจะคิดว่าทีมเราจะถูกถล่มถึงแปดประตูด้วยกัน ผมพร้อมที่จะยอมเปลี่ยนแปลงเส้นทางตัวเองหากมันทำให้ทีมของเราไปได้ต่อมันไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องไม่พูดกันตรง ๆ ในวันนี้ทีมต้องการคลื่นลูกใหม่และผมก็รักสโมสรที่นี่มาก” เคราร์ด ปิเก้ กล่าว
ไม่ควรพลาดข่าวสารวงการฟุตบอล ตลาดซื้อขายนักเตะ ที่น่าสนใจ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ Ball-Hub
“สโคลส์” เผยชื่อสองนักเตะ ที่เป็นจุดอ่อนของ ปีศาจแดง“ซานโต้” เผย...
“สโคลส์” เผยชื่อสองนักเตะ ที่เป็นจุดอ่อนของ ปีศาจแดง
หลังเกมที่แมนยูพ่ายแพ้ต่อเซบีย่า 1-2 ในเกมยูโรป้าลีกเมื่อคืนนี้ พอล สโคลส์ อดีตนักเตะที่เป็นลูกหม้อของสโมสรกล่าวว่า อารอน วาน บิสซาก้าเล่นได้ย่ำแย่ และดูเหมือนว่าจะเป็นจุดอ่อนของทีม
เกมยูโรป้าลีกเมื่อคืนที่ผ่านมา ทีมของโอเล่ กุนนาร์ โซลชาต้องปวดใจเมื่อตกรอบรายการยูโรป้าลีก รอบรองชนะเลิศจากการที่ต้องพ่ายแพ้ต่อทีมของสเปน แม้ว่าบรูโน่ แฟร์นันเดสยิงประตูให้ปิศาจแดงขึ้นนำก่อน
แต่ว่าทีมยักษ์ใหญ่จากลาลีกายังคงดูอันตรายในเกมรุก แมนยูยังมีเกมรับที่ย่ำแย่ในครึ่งแรกเมื่อถูก เซร์คิโอ เรกูเลี่ยนขึ้นเกมไปทางปีกและจ่ายบอลให้ซูโซ่ซัดบอลผ่านดาบิด เด เคอาเข้าประตูไป
แบรนดอน วิลเลี่ยมและอารอน วาน-บิสซาก้าที่ประจำการในฝั่งซ้าย ดูเหมือนว่าจะเป็นบ่อน้ำมันให้ทางฝั่งฟูลแบ๊กของเซบีย่าจะเข้าโจมตีเลยทีเดียว และกูรูทั้งสองคนอย่างพอล อินซ์ และพอล สโคลส์ก็มองออกถึงเรื่องนี้
"สโคลส์" บอกว่า ดูเหมือนเกมนี้อารอน วาน บิสซาก้าจะยืนขาตายไปหน่อย
ไม่ค่อยขยับเล่นเกมรับเท่าไหร่ เมื่อเจอการชิ่งวันทูเท่านั้นก็จบเกม สโคลส์กล่าวต่อว่า ซูโซ่เป็นกองหน้าที่จบสกอร์ได้อย่างคมกริบ และโดยเขาเล่นฟุตบอลเหมือนเป็นตำแหน่งกองหน้าคนที่สอง ผมคิดว่าการที่มีเขาทั้งสองคนอย่าง วาน บิสซาก้าและวิลเลี่ยมส์กลับไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย
พวกเขาทั้งสองคนต้องเล่นเกมรับให้ดีกว่านี้...
“ซานโต้” เผย “ฮิเมเนซ” ไม่สมควรถูกตำหนิ หลังยิงจุดโทษพลาด
"ราอูล ฮิเมเนซ" ยิงลูกโทษพลาดจากเกมคืนวันอังคารทำให้ทีมต้องตกรออบด้วยน้ำมือของเซบีย่า และโค้ชของวูลฟ์ปฏิเสธที่จะตำหนิลูกทีมที่ยิงลูกโทษไม่เข้า สุดท้ายทีมต้องพ่ายแพ้ต่อเซบีย่า 1-0 ในเกมยูโรป้าลีก รอบควอเตอร์ไฟนัล
นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้กุนซือชาวโปรตุเกสเชื่อว่าไม่มีใครกล้าตำหนิ ราอูล ฮิเมเนซกองหน้าชาวเม็กซิโกที่ยิงลูกโทษพลาดทำให้เส้นทางของวูลฟ์ตกเพียงแค่รอบควอเตอร์ไฟนัลด้วยน้ำมือของเซบีย่า
โดยรายการยูโรป้าลีกของวูลฟ์เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2019 เป็นเกมที่แข่งกับครูเซเดอร์ส จนกระทั่งเกมสุดท้ายที่เยอรมัน พวกเขาได้ลงสนามกว่า 59 เกมในฤดูกาลนี้นับว่าวูลฟ์มาได้ไกลมากเลยทีเดียว
ลูคัส โอคัมโปสยิงประตูฝังวูลฟ์นาที 88 ทำให้เซบีย่าชนะ 1-0 ในเกมที่ทีมจากสเปนครองบอลบุกมากกว่า และจะเข้ารอบไปพบแมนยูในเกมวันอาทิตย์
"ราอูล ฮิเมเนซ" นักเตะของวูลฟ์ยิงลูกโทษไม่เข้า
แต่เกิดเหตุการณ์ที่น่าสนใจคือ ราอูล ฮิเมเนซนักเตะของวูลฟ์ยิงลูกโทษไม่เข้า ถูกผู้รักษาประตูของเซบีย่าเซฟได้ในนาทีที่ 13 ทำให้สถิติที่เขายิงลูกโทษเข้า 100 เปอร์เซ็นต์ต้องจบลง นูโน่กล่าวว่าแน่นอนไม่มีใครตำหนิเขาลงหรอก
ราอูลเป็นนักเตะที่มหัศจรรย์ เขาทำได้ทุกอย่างเพื่อทีม ทั้งยิงประตู พรสวรรค์ที่เขามีมันน่าประหลาดใจมาก...
“เอ็มบัปเป้” จะได้ลงสนามให้ เปแอสเช ซด! อตาลันต้าหรือไม่
ซูเปอร์สตาร์ของเปแอสเช "เอ็มบัปเป้" เจ็บข้อเท้าและไม่แน่ว่าจะได้ลงสนามเกมรอบควอเตอร์ไฟนัล เกมที่พบอตาลันต้าหรือไม่ แต่ล่าสุดทางทีมแพทย์ออกไฟเขียวแล้วว่าเขาสามารถลงสนามได้
ตอนแรกคิลิยัน เอ็มบัปเป้ได้รับคาดหมายว่าจะชวดลงสนามเกมที่พบอตาลันต้า เกมแชมเปี้ยนส์ลีกหลังจากที่เจ็บข้อเท้าจากรายการเฟรนช์ คัพนัดชิงชนะเลิศเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม
กองหน้ารายนี้ล้มลงไปนอนกับพื้นหลังจากถูกเข้าปะทะอย่างหนัก ซึ่งเขาทำได้เพียงลงมายืนฉลองกับเพื่อนร่วมทีมที่สแตนด์เท่านั้น
ซึ่งคาดหมายว่าสตาร์ชาวฝรั่งเศสจะพลาดลงสนาม 3 สัปดาห์ แต่ว่าลีกเอิงก็ได้ยกเลิกการแข่งขันไปแล้ว และเหลือเพียงการแข่งขันแชมเปี้ยนส์ลีกวันเสาร์นี้เท่านั้น
เขาลงซ้อมเบาๆ ได้แล้วเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โค้ชของเปแอสเช โธมัน ทูเคิลกล่าวว่าสตาร์รายนี้อาจจะลงสนามไม่ทันเกมรอบควอเตอร์ไฟนัล แต่ล่าสุดเอ็มบัปเป้จะลงสนามได้ในไม่ช้านี้
กำหนดเดดไลน์ที่จะลงสนามมันสั้นมากเลย ทูเคิลกล่าวกับผู้สื่อข่าว เราได้พูดคุยกับหมอวันนี้และจะตัดสินใจอีกครั้งวันเสาร์นี้ดูว่าเขาจะพร้อมหรือไม่ หากว่าโอเคเขาจะมีชื่อที่ม้านังสำรองข้างสนามเกมพบอตาลันต้าแน่นอน
แต่ผมก็ไม่อยากคาดเดาอะไรมากนัก ซึ่งหลังจากที่จบเกมเฟร้นช์ คัพ นัดชิงชนะเลิศใหม่ๆแพทย์วินิจฉัยแล้วว่าเอ็มบัปเป้จะเล่นฟุตบอลไม่ได้กว่า 3 สัปดาห์ นั่นหมายความว่าเขาจะชวดลงสนามเกมที่พบทีมจากเซเรียอานี้ด้วย
เปแอสเชประกาศผ่านทางเว็บไซต์หลังเกมที่พบแซงต์-เอเตียนว่าเอ็มบัปเป้จะเข้าผ่าตัดข้อเท้าขวา แต่ผลการตรวจพบว่าเขาบาดเจ็บไม่หนักมาก หากว่าฝืนเล่นก็น่าจะได้
หากว่าเปแอสเชไม่มี "เอ็มบัปเป้" ลงสนาม
หากว่าเปแอสเชไม่มีเอ็มบัปเป้ลงสนาม ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก เพราะกองหน้าชาวฝรั่งเศสรายนี้ยิงได้ 30 ประตู 18 แอสซิสต์จากการลงสนาม...
จากจอมทัพ! 3 สิ่งสำคัญ ที่เปลี่ยน “เมซุต โอซิล” ให้กลายเป็นนักเตะธรรมดาๆ
เชื่อว่าในเวลานี้แฟนบอลของทัพไอ้ปืนใหญ่หลายๆคน น่าจะสงสัยว่าสโมสรจะทำอย่างไรกับ เมซุต โอซิล จอมทัพดีกรีทีมชาติเยอรมันกันแน่ เพราะว่าจอมทัพตาปรือรายนี้แทบจะไม่ได้รับโอกาสในการลงสนามในยุคของ มิเกล อาร์เตต้า เลย และดูเหมือนว่าจะไม่อยู่ในแผนการทำทีมเลยด้วยซ้ำ
ซึ่ง ณ เวลานี้เมซุต โอซิลก็มีอายุอานามมากถึง 31 กระรัตแล้ว แถมสัญญาของเขากับอาร์เซน่อลยังเหลืออีกแค่ 1 ปีอีกด้วย จึงมีความเป็นไปสูงมากที่เจ้าตัวอาจจะถูกปล่อยตัวออกไป และนี่คือ 3 สิ่งสำคัญที่เปลี่ยนจอมทัพระดับโลกอย่างเมซุต โอซิลให้กลายเป็นกองกลางธรรมดาคนนึง
ความเข้มงวดในการคุมทัพของ มิเกล อาร์เตต้า – นับตั้งแต่ มิเกล อาร์เตต้า ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งกุนซือของสโมสรอาร์เซน่อล เขาก็ทำให้แฟนบอลไอ้ปืนใหญ่ทุกคนได้เห็นทันทีว่าเขาไม่ใช่กุนซือหนุ่มที่มือไม่ถึงในการคุมสโมสรยักษ์ใหญ่ ด้วยการทำการดร็อปเมซุต โอซิลแม้ว่านักเตะรายนี้จะเป็นตัวหลักของสโมสรตลอดมาก็ตาม
โดย มิเกล อาร์เตต้า...
“ธีราทร บุญมาทัน” นักเตะไทยคนแรก ที่ไปคว้าแชมป์ เจลีก
ขึ้นชื่อว่าลีกของฟุตบอลนั้น ย่อมมีจุดแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ทั้งการเข้าปะทะ จังหวะการเล่น หรือกฎกติกาต่างๆ ซึ่งแต่ละลีกฟุตบอลของแต่ละประเทศนั้นก็จะมีจุดแข็งจุดอ่อนหรือความนิยมที่แตกต่างกันออกไป และถ้าหากพูดถึงลีกฟุตบอลที่ดีที่สุดในทวีปเอเชีย คงหนีไม่พ้นเจลีก หรือลีกสูงสุดของประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง ซึ่งมีนักเตะไทยเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่สามารถโลดแล่นค้าแข้งในเจลีกของญี่ปุ่นได้ หนึ่งในนั้นคือ ธีราทร บุญมาทัน แบ็คซ้ายทีมชาติไทยนั่นเอง
เจ้าอุ้ม "ธีราทร บุญมาทัน" แจ้งเกิดกับสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
เจ้าอุ้ม ธีราทร บุญมาทันแจ้งเกิดกับสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยเจ้าอุ้ม ยึดตัวหลักตำแหน่งแบ็คซ้ายของสโมสรบุรีรัมย์มาอย่างยาวนาน โดยในระยะเวลา 7 ปีที่อยู่กับสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เจ้าอุ้มพาต้นสังกัดคว้าแชมป์อย่างมากมายทั้งแชมป์ไทยลีก
แชมป์บอลถ้วยในประเทศ และแชมป์ระดับอาเซียน ซึ่งช่วงที่เจ้าอุ้ม ค้าแข้งให้กับสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เจ้าอุ้มโชว์ฟอร์มได้เป็นอย่างดีทั้งในเวทีไทยลีก และเวทีเอเอฟซี แชมเปี้ยนลีก...
ปืนใหญ่ อาร์เซนอล เล็ง “ปาร์ตีย์” แต่ตราหมีโก่งค่าตัวกว่า 45 ลป
อาร์เซนอล เวลานี้เตรียมซื้อนักเตะเข้าสู่ที่ม โดยเล็งไปที่โธมัส ปาร์ตีย์นักเตะแอต มาดริดโดยยื่นเงินค่าตัวกว่า 45 ล้านปอนด์
กุนซือของอาร์เซนอล มิเกล อาร์เตต้าต้องการนักเตะกองกลางรายนี้โดยที่แอต มาดริดก็ต้องการขายนักเตะในราคาที่สูงเหมือนกัน
กุนซือชาวสเปนต้องการจะเสริมทัพนักเตะเข้าสู่ทีมเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากการที่ทีมได้แชมป์เอฟเอคัพชนะเชลซี 2-1 แต่ว่าก็เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนักเพราะว่าเกิดวิกฤต covid-19 โดยปาร์ตีย์นั้นเป็นนักเตะมิดฟิลด์ตัวรับระดับท็อปในเวที ลาลีกา
ทีมตราหมีต้องการเงินค่าตัวนักเตะ 45 ล้านปอนด์เป็นอย่างต่ำ จากการเปิดเผยของฟุตบอลลอนดอน ดูเหมือนว่าอาร์เซนอลต้องการนักเตะจำนวนมากเข้าสู่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
ทำให้อาร์เตต้าต้องคิดหนักทีเดียวหากว่าต้องการได้ตัวปาร์ตีย์ ส่วนนักเตะออกคาดว่ามัตเตโอ เกวนดูชี่จะเป็นนักเตะที่ต้องย้ายออกจากทีม หลังจากที่นักเตะชาวฝรั่งเศสรายนี้ไม่เป็นที่ต้องการของผู้จัดการทีมเท่าไหร่นัก
"โอซิล"ก็มีข่าวลือเรื่องการย้ายทีมออกจาก อาร์เซนอล
เมซูต โอซิลก็มีข่าวลือเรื่องการย้ายทีมออกจากอาร์เซนอล เพราะว่าเขารับเงินค่าเหนื่อยกว่า 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นค่าเหนื่อยที่สูงมาก และเพลย์เมกเกอร์รายนี้ก็ยังยินดีที่จะรอทีมที่พร้อมจ่ายเงินค่าเหนื่อยระดับนี้ให้เขา
ลูคัส ตอร์เรย์ร่านักเตะชาวอุรุกวัยเป็นนักเตะอีกรายที่มีข่าวว่าจะย้ายออกจากทีมเพราะทีมจากเซเรียอา อยากได้ตัวเขา
ลูคัส ตอร์เรย์ร่ามิดฟิลด์ชาวอุรุกวัยออกมาเปิดเผยว่าเขาอาจย้ายออกจากถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมก็ได้ในวันหนึ่งแต่ว่าเวลานี้เขาขอเวลาตัดสินใจก่อนว่าจะเอาอย่างไรกับอนาคตของตัวเองดี
ตอร์เรย์ร่าเปิดใจกับนักข่าวหลังจากที่ไมมีโอกาสได้ลงสนามเป็นแดนกลางตัวจริงได้มากนักทั้งในยุคของอูไน เอเมอรี่และมิเกล อาร์เตต้า โดยช่วงที่เอเมอรี่เข้าคุมทีมเขาได้รับบทบาทมิดฟิลด์จอบทัพ และได้สวมเสื้อหมายเลข 10...
ข่าวรายวัน! “เชลซี” หวังเซ็นสัญญา 2 กองหลังร่วมทีมตลาดหน้าร้อน
เชลซี ตกเป็นข่าวต้องการได้ตัว 2 กองหลังรายใหม่อย่าง มัตธิอัส กินเทอร์ และโฆเซ่ ฆิมิเนซ มาร่วมทีมในตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้
สำหรับเชลซีของเทรนเนอร์ แฟร้งค์ แลมพาร์ด จบฤดูกาลในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วยอันดับ 4 ของซีซั่น พร้อมคว้าสิทธิ์ไปเล่นในฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในซีซั่นหน้า
จากการได้โควต้าไปเล่นในฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่ ส่งผลให้เชลซี ต้องการยกระดับทีมด้วยการเสริมทัพนักเตะใหม่ ซึ่งแน่นอว่าพวกเขามีเงินก้อนโตในเรื่องนี้ เนื่องจากใน 2 ตลาดนักเตะที่ผ่านมาทั้งตลาดหน้าร้อน และตลาดหน้าหนาว "สิงห์บูลส์" ถูกแบนไม่ให้เซ็นสัญญากับผู้เล่นใหม่
ก่อนหน้านี้ เชลซี ได้ตัว 2 ผู้เล่นในแนวรุก
ก่อนหน้านี้เชลซี ได้ตัว 2 ผู้เล่นในแนวรุกอย่าง ฮาคิม ซีเย็ค แนวรุก...
ยิ้มหน้าบาน “วิลเลี่ยมส์” ผลงานเข้าตาต้นสังกัดสะบัดน้ำหมึกให้อยู่ต่อ
หุบยิ้มลงไม่ได้เลยสำหรับ แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ งานนี้ได้ออกมาเปิดเผยความรู้สึกว่า รู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมากกับผลงานที่ตนทุ่มเทอย่างหนักมาตลอดเวลาจนทำให้ทีมต้นสังกัดมองเห็นในความพยายามของเขาและยอมมอบสัญญาฉบับใหม่ให้แก่ตัวเขาในที่สุด และมีความพร้อมที่จะช่วยเหลือทีมให้คว้าแชมป์ในศึกต่าง ๆ พร้อมยังขอบคุณกุนซือใหญ่ที่สนับสนุนในตัวเขามาตลอด
"วิลเลี่ยมส์" ทำผลงานดีมาตลอดทั้งฤดูกาล จนทีมตัดสินใจมอบสัญญาฉบับใหม่
แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ นักเตะดาวรุ่งของทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรระดับแถวหน้าแห่งวงการพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ทำผลงานดีมาตลอดทั้งฤดูกาลจนทีมตัดสินใจมอบสัญญาฉบับใหม่ให้แก่ตัวแข้ง ซึ่งสัญญาฉบับนี้จะกินอายุทำงานกันแบบยาว ๆ ไปจนถึงปี 2024 เดือนมิถุนายน กุนซือใหญ่ของทีมมองว่าสมควรแล้วที่ได้รับสัญญาฉบับนี้เพราะนักเตะเป็นคนที่มีความพยายามสูงและทุ่มเทกับการฝึกซ้อมอย่างหนัก แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ แข้งอนาคตไกลวัย 19 ปีสามารถชิงพื้นที่การเป็นผู้เล่นตัวจริงได้สำเร็จ จากการที่กุนซือใหญ่เปิดโอกาสให้เขาได้ลงแข่งขันทั้งหมด 33 รายการและมีส่วนช่วยเหลือเพื่อนในทีมให้ทำประตูชัยนับไม่ถ้วน ฟอร์มการเล่นที่ถูกพัฒนาขึ้นแบบไม่หยุดทำให้นักเตะติดทีมชาติอังกฤษ และมีโอกาสลงแข่งขันไปแล้วถึง 4 นัด
“ผมมีความสุขมากจนไม่รู้จะบรรยายยังไงกับการที่ทีมมองเห็นความสำคัญในตัวผม สัญญาฉบับใหม่มันมีความหมายกับผมมากจริง ๆ ขอบคุณผู้จัดการทีมที่คอยสนับสนุนผมและไว้วางใจให้ผมได้ลงเป็นนักเตะตัวจริงในสนามแทบจะทุกนัด สำหรับการแข่งขันหลังจากนี้ตัวผมกับทีมคงจะเป็นอะไรที่เข้มข้นยิ่งขึ้น ผมพร้อมที่จะพัฒนาฝีเท้าด้วยเองให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมเพื่อพาทีมคว้าถ้วยแชมป์ในลีกการแข่งขันอีกมากมายที่รออยู่” แบรนดอน...
“เจอร์เก้น คล็อปป์” คือคำตอบสุดท้ายของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล
คำกล่าวที่สุดคลากสิกอย่าง “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” การันตีความชัดเจนได้จากการที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน สามารถนำทีมลิเวอร์พูลกลับมาประกาศความยิ่งใหญ่ได้อีกครั้งด้วยการฟาดแชมป์พรีเมียร์ลีกหนแรกในหน้าประวัติศาสตร์สโมสรไปได้สำเร็จ ซึ่งคุ้มค่าแก่การรอคอยของเหล่าแฟน ๆ “หงสแดง” ทั่วโลกที่จดจ่อรอแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษอีกครั้งมายาวนานถึง 30 ปีเลยทีเดียว
หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการลองผิดลองถูกเปลี่ยนกุนซือกันเป็นว่าเล่นราวกับเก้าอี้ดนตรีไม่ว่าจะเป็นเชราร์ อุลลิเยร์, ราฟาเอล เบนิเตซ, รอย ฮอดจ์สัน, เบรนแดน ร็อดเจอร์ แต่จนแล้วจนรอดลิเวอร์พูลก็ยังไปไม่ถึงฝั่งฝันสักทีเต็มที่ก็แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
สุดท้ายก็มาประสบความสำเร็จจากการเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ ซึ่งก่อนหน้านี้มีดีกรีพาโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ฟันแชมป์บุนเดสลีกามาแล้ว แม้ว่ากว่าจะมีวันนี้ได้เจอร์เก้น คล็อปป์ก็ต้องใช้เวลาปลุกยักษ์หลับอย่างลิเวอร์พูลอยู่หลายฤดูกาลเหมือนกัน
"เจอร์เก้น คล็อปป์" นำความเปลี่ยนแปลงมาสู่ ลิเวอร์พูล
การเข้ามาเป็นนายใหญ่แห่งค่ายแอนฟิลด์ของเจอร์เก้น คล็อปป์นำความเปลี่ยนแปลงมาสู่ลิเวอร์พูลอย่างเห็นได้ชัดเจนไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการเล่นที่กลับมาเร้าใจเหล่าสาวก “เดอะค็อป” ที่กลับมาไหลลื่นเป็นเครื่องจักรสีแดงในยุคเกรียงไกร รวมทั้งเจอร์เก้น คล็อปป์ยังทำการเสริมทัพชุดใหญ่จัดหนักจัดเต็มชนิดที่เรียกได้ว่ายกเครื่องลิเวอร์พูลใหม่เลยก็ว่าได้ แม้ว่าในยุคของเขาลิเวอร์พูลต้องเสีย...