ประเด็นจากเกมพรีเมียร์ลีกนัดที่ แมนยู โดนสเปอร์ ถลุงยับ 1-6
เกมบิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์นี้จบลงไปเป็นที่เรียร้อย ซึ่งไม่มีใครคาดคิดว่าสกอร์จะออกมาห่างขนาดนี้ โดยการแพ้ยับเยิบ 1-6 ของ แมนยู ในวันนี้ ทำให้ทาบสถิติเมื่อ 9 ปีก่อนที่แพ้ต่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่ปรับร่วมเมือง ด้วยสกอร์เดียวกันนี้ นอกจากนี้ยังมีอีกสถิติคือการแพ้เกมในบ้าน 2 นัดติดต่อกันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ สำหรับเกมนี้มีหลายประเด็นที่ต้องหยิบยกมาพูดดังนี้
เปิดเกมมา แมนยู ได้ประตูขึ้นนำเร็วจากจุดโทษของ "บรูโน่ แฟร์นันเดส"
ซึ่งดูเหมือนกับว่าจะเป็นเกมที่ง่ายของแมนยู แต่แล้วจุดเปลี่ยนก็เกิดขึ้นหลังจากนั้นเพียงไม่กี่นาที จากความผิดพลาดของผู้เล่นในแนวรับ โดยเฉพาะ ไบญี แม็คไกวร์ และลุค ชอว์ ที่เตะสกัดไม่ขาด โหม่งเคลียร์ไม่ดี จนถูกตีเสมอ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าผู้เล่นแนวรับของแมนยูเสียสมาธิไป ทำให้สปอร์ฉวยโอกาสจากจังหวะโต้ขึ้นมาโดยซอง ฮึงมิน ซึ่งจะเห็นได้ว่าสมาธิของผู้เล่นยังไม่กลับมาจากลูกตีเสมอ และกลับกลายว่าสถานการณ์แย่กว่าเดิมเพราะถูกยิงแซง แต่ถึงยังไงก็ตามหลังจากนั้น...
สเปอร์ส เปิดบ้านเสมอ นิวคาสเซิล สุดแสบ ด้วยสกอร์ 1-1
สเปอร์ส ครองบอลได้มากกว่า มีเพียงลูคัส มูร่าที่ยิงประตูผ่านคาร์ล ดาร์โลว์ได้โดยโกลของนิวคาสเซิลรายนี้โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม เซฟประตูมากกว่า 11 เซฟ แต่ดูเหมือนว่าทีมไก่เดือยทองจะคว้าชัยชนะได้แล้ว
ดูเหมือนว่ามันจะเพียงพอแล้วจนกระทั่ง แอนดี้ คาร์โรล์ ของนิวคาสเซิลยิงบอลไปโดนแขนของเอริค ดายเออร์ตอนนั้นแข้งของเจ้าบ้านหันหลังอยู่แท้ๆ แต่ว่าผู้ตัดสินก็ดันมอบจุดโทษให้ทีมเยือน และเป็นคัลลั่ม วิลสันซํดบอลเข้าประตูไป
สตีฟ บรู๊ซกล่าวว่า ผมเข้าใจว่าทำไมสเปอร์สถึงบ้าดีเดือดและวิธีที่ รอย ฮอดจ์สันแสดงปฏิกิริยาเมื่อวานนี้ บรูซกล่าวหลังเกมว่า มันเป็นเรื่องไร้สาระโดยสิ้นเชิง
"มูรินโญ่" ไม่แสดงความคิดเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ สเปอร์ส
มูรินโญ่พยายามที่จะไม่แสดงความคิดเห็นมากเกินไปเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยกเว้นจะบอกเป็นนัยว่าสเปอร์สได้รับการตัดสินที่แย่กว่าทีมอื่นๆในพรีเมียร์ลีก ในกรอบเขตโทษเป็นเรื่องที่เราต้องระวังให้มาก เกมนี้เหมือนทีมเสียสองคะแนนเลยเพราะว่ามาถูกยิงนาที 90+7 น่าเสียดายจริงๆ
มูรินโญ่ปฏิเสธที่จะตอบคำถามถึงเรื่องแฮนด์บอลที่เกิดขึ้น แต่ก็กล่าวชื่นชมลูกทีมว่าเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว
ผมมองว่าผลงานของทีมในเวลานี้ยังดีอยู่ ครึ่งแรกน่าทึ่งมาก จริงๆแล้วสกอร์น่าจะไกลเป็น 3-0 ถึง 4-0 ด้วยซ้ำ แต่ดาร์โลว์ยอดเยี่ยมมาก ครึ่งหลังทีมเราก็พยายามเป็นฝ่ายครองเกมมากกว่า ซน...
“โจเซ่ มูรินโญ่” คุมทีมได้ห่วยกว่า “ปอเซ็ตติโน่” จริงหรือ ?
หลังจากที่กุนซือจอมอหังหาร์อย่าง "โจเซ่ มูรินโญ่" เข้ามาคุมทีมต่อจาก "ปอเซ็ตติโน่" เมื่อเดือนพฤศจิกายนเมื่อปลายปีก่อน ด้วยความหวังที่มูรินโญ่ ผู้เคยกวาดแชมป์มาทั่วทุกสารทิศ จัดเป็นกุนซือที่การันตีแชมป์ติดมือมากที่สุดคนหนึ่งของวงการลูกหนังก็ว่าได้ จะเข้ามาพาทีม ‘ไก่เดือยทอง’ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส ถึงฝั่งฝันเสียที
แต่หลังจากเกมการแข่งขันดำเนินมาจนช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล ก็ดูเหมือนว่าผลงานของสเปอร์สก็ยังไม่ค่อยกระเตื้องอย่างที่วาดฝันไว้ จนหลายคนเริ่มพูดว่ามันเป็นความผิดพลาดของสโมสร ที่บังอาจปลดกุนซือผู้ยกระดับสเปอร์สอย่างปอเซ็ตติโน่ออกจากทีมไป ทั้ง ๆ ที่เขาดูจะเคมีเข้ากับสเปอร์สมากกว่ามูรินโญ่เสียอีก
หากลองกางสถิติชัด ๆ แล้ว 21 เกมแรกในลีกของปอเซ็ตติโน่ในการคุมสเปอร์ส ทำผลงานชนะ 10 เสมอ 4 แพ้ 7 ประตูได้ 32 เสีย 27 ประตู รวมเก็บไปทั้งสิ้น 34 แต้ม
ส่วน 21...
“แยน แฟร์กองเกน” ยังปิดปาก ไก่เดือยทองคงต้องรอลุ่นต่อไป
ไก่เดือยทอง ยังคงต้องรอต่อไป กองหลังฝีเท้าแน่น “แยน แฟร์กองเกน” ยังคงปิดปากไม่รู้จะอยู่หรือจะไป!
ทีมดังแห่งวงการค้าแข้งชั้นนำของอังกฤษ ไก่เดือยทอง หรือ ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ยังคงตั้งหน้าตั้งตารอการต่อสัญญาฉบับใหม่ของนักเตะกองหลังฝีเท้าดีอย่างแยน แฟร์กองเกนโดยจะเป็นการนับถอยหลังในอีกไม่กี่วันนี้ แต่ถึงกระนั้นตัวนักเตะกองหลังฝีตีนเยี่ยม วัย 30ปีรายนี้ ยังคงรูดชิบปากไม่เผยถึงสัญญาฉบับใหม่ โดยแหล่งข่าวได้ออกมาเผยข้อมูลว่า หากแยน แฟร์กองเกนยังคงที่จะเฉยเมินต่อทีมไก่เดือยทองของเขา เขาอาจจะต้องถูกสตาฟแข้งไว้ที่ข้างสนามจนจบฤดูกาลก็เป็นได้
สัญญาการค้าแข้งของ แยน แฟร์กองเกน จะสิ้นสุดภายในสิ้นเดือนมิถุนายน
ซึ่งข้อมูลที่ได้เผยออกมาระบุชัดเจนว่า สัญญาการค้าแข้งของแยน แฟร์กองเกนกับทีมทอตแนม ฮอตสเปอร์ จะสิ้นสุดภายในสิ้นเดือนมิถุนายน 63 นี้ ด้วยผลงานและการซัพพอร์ตทีมที่ดีเยี่ยมตลอดการค้าแข้งของเขา ทำให้ทีมสโมสรได้ตัดสินใจเลือกที่จะยื่นสัญญาฉบับใหม่ แต่ก็ได้ถูกปฎิเสษมาแล้วครั้งหนึ่ง สื่อแห่งแดนอังกฤษต่างออกมาวิเคราะห์ข้อมูลว่าแยน แฟร์กองเกนอาจจะหมดใจที่จะอยู่ต่อกับทีมของเขาแล้ว จึงได้สงวนท่าทีที่นิ่งเฉยเช่นนี้
ปัจจุบันทีมทอตแนม ฮอตสเปอร์สภายใต้การคุมบังเหี้ยนของกุนซือสุดบ้าระห่ำอย่าง โซเซ่ มูริญโญ มีความเป็นไปได้ยากที่พวกเขาจะไต่เต้าขึ้นมาเป็นจ่าฝูงของหัวตารางทีมในฤดูกาลนี้...