เกมไทยลีกนัดตกค้างที่ถูกเลื่อนออกมาจากโปรแกรมเดิม เนื่องจากสนามแพทสเตเดี้ยมหม้อแปลงระเบิด ทำให้ท้ายที่สุดได้คิวลงสนามกันช่วงกลางสัปดาห์ โดยเกมนี้ การท่าเรือ หวัง 3 แต้มต่อเนื่องเพื่อคว้าตั๋วไปเล่นฟุตบอลถ้วยสโมสรเอเชีย ส่วนเมืองทองยังคงมีหวังแบบห่างๆ สำหรับผังการเล่นเจ้าบ้านมาในระบบ 4-3-3 ขณะที่ทีมเยือนวางผัง 4-2-3-1
เริ่มต้นเกม การท่าเรือ ดูดีกว่าในแง่การครองบอล
แต่เพราะการผ่านบอลที่ค่อนข้างเชื่องช้า ทำให้ฝ่าแนวรับเมืองทองไปไม่ได้ ขณะที่เมืองทองมีจังหวะการดักบอลที่ดีและสร้างจังหวะต่อเนื่องด้วยบอลเร็ว เพื่อเข้าไปในแดนคู่ต่อสู้ แต่พอถึงจังหวะที่ต้องเข้าทำประตูดูเหมือนจะไม่มีมิติตรงนี้ หรือการเคาะบอลหน้าบ้านตัวเองเพื่อดึงให้ผู้เล่นของการท่าเรือขึ้นมาดันสูง แล้วจะฉวยโอกาสที่ช่องว่างในแนวรับเปิดกว้างโจมตีก็ไม่ได้ผล เพราะติดปัญหาเดิมคือจังหวะเข้าทำ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ไม่มีความอันตรายมากเพียงพอที่น็อคเจ้าถิ่น ส่วนประตู 1-0 ที่เสียให้แก่เจ้าบ้าน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะจังหวะบอลปัดของดัง วามลัม ที่มาเข้าทางอดิศักดิ์พอดี
ครึ่งหลัง เมืองทองพยายามยกระดับเกมของตัวเองขึ้นมา จนเกมดูเหนือกว่าในแง่การครองบอลและเริ่มนวดเข้าใส่เจ้าบ้านได้ แต่จังหวะการเข้าทำไม่สามารถรังสรรค์ให้เป็นชิ้นเป็นอันได้ กระทั่งต้องใช้วิธียิงไกลจากนอกเขตซึ่งเข้ากรอบ แต่ไม่อันตรายสำหรับผู้รักษาประตูการท่าเรือ
ช่วงท้ายเกม เมืองทองเริ่มถอดใจ ดังจะเห็นได้จากการบุกที่เริ่มไม่วูบวาบเหมือนต้นครึ่งหลัง กระทั่งเปิดโอกาสให้การท่าเรือได้บุก แล้วได้ประตูนำ 2-0 เกมจึงแทบจบในทันที
การตัดสินของกรรมการในวันนี้ หลายจังหวะมีข้อกังขา เช่น จังหวะที่เมืองทองควรได้จุดโทษและลูกตั้งเตะ รวมถึงการทำฟาวล์ของผู้เล่นการท่าเรือที่ควรมีการคาดโทษ แต่ก็ถูกปล่อยผ่านไป
บทสรุปจากเกมการท่าเรือ ถือว่าเล่นได้ตามมาตรฐานไม่มีความผิดพลาดอะไร เมื่อมีโอกาสสามารถทำประตูได้ ขณะที่เมืองทอง รูปทรงของเกมถือว่ามาในทางที่ถูกต้อง ขาดเพียงจังหวะเข้าทำที่ต้องชัดเจนว่านี้ การเสีย 2 ประตูในเกมนี้อาจไม่ใช่ความผิดพลาด แต่อาจเป็นในเรื่องของจังหวะฟุตบอลมากกว่า
ไม่ควรพลาดข่าวสารวงการฟุตบอล ตลาดซื้อขายนักเตะ ที่น่าสนใจ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ Ball-Hub ที่ได้รับการสนับสนุนจาก ทางเข้าจีคลับ เว็บไซต์ที่กำลังได้รับความนิยม และเชื่อถือได้
